ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

การขอผู้ชายเป็นแฟนอาจเป็นเรื่องน่ากลัว แต่มันก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องเป็นแบบนั้นสักหน่อย ขอแค่คุณมีชุดความคิดที่ถูกต้อง คุณก็สามารถพูดคุยเรื่องอนาคตความสัมพันธ์กับพ่อหนุ่มคนนั้นแบบจริงจังโดยไม่ต้องเครียดได้แล้ว

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ทบทวนว่าตัวเองพร้อมหรือยัง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 พิจารณาว่าตัวเองพร้อมจะผูกมัดแล้วหรือยัง.
    การตัดสินใจที่จะผูกมัดไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไม่ว่าคุณจะพร้อมที่ผูกมัดหรือไม่ก็ตาม แต่ความสัมพันธ์ที่มั่นคงนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งแต่ละความสัมพันธ์ก็ไม่เหมือนกัน และคุณก็อาจจะคาดหวังบางอย่างจากความสัมพันธ์อยู่แล้ว[1] ลองถามตัวเองว่า :
    • ฉันรู้สึกอย่างไรกับเขา เวลาอยู่ด้วยกันฉันตื่นเต้นหรือเปล่า ฉันคิดถึงเขาไหมเวลาที่เขาไม่อยู่
    • ตอนนี้ฉันรับมือกับการแบ่งเวลาให้กับความสัมพันธ์ที่จริงจังได้ไหม ฉันอยากได้ความสัมพันธ์แบบไหน[2]
    • เราเคยทะเลาะกันมาก่อนไหม ถ้าเคย เรารับมือกับมันได้ดีแค่ไหน[3]
    • เขาให้เกียรติฉันหรือเปล่า มีสัญญาณเตือนที่ฉันกังวลบ้างไหม มีอะไรในตัวเขาที่ฉันไม่แน่ใจหรือเปล่า ฉันไว้ใจเขาไหม[4]
    • ฉันรู้สึกอย่างไรกับการมีคู่ครองคนเดียว ฉันอยากจะมีความสัมพันธ์พิเศษกับคนๆ เดียวหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันยินดีที่จะคบกับผู้ชายคนนี้เพียงคนเดียวหรือไม่ ถ้าไม่ ทั้งสองฝ่ายเปิดใจให้กับความสัมพันธ์แบบมีคนรักหลายคนหรือเปล่า
    • ฉันจะขอเขาเป็นแฟนเพราะเขาทำให้ฉันมีความสุข หรือเพราะคนอื่นกดดันให้ฉันมีแฟนกันแน่
  2. How.com.vn ไท: Step 2 พิจารณาระยะเวลาที่คบกัน.
    การขอผู้ชายเป็นแฟนเร็วเกินไปอาจทำให้เขากลัวได้ถ้าเขาไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกัน แต่ถ้ารอนานเกินไปมันก็อาจจะสร้างความสับสนและทำร้ายจิตใจกันได้ เนื่องจากว่าแต่ละความสัมพันธ์นั้นไม่เหมือนกันเลย จึงไม่สามารถระบุเวลาได้ตายตัวว่าคุณควรรอนานแค่ไหนถึงจะขอเขาเป็นแฟนได้ เชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง ถ้ารู้สึกว่ามันถึงเวลาแล้ว มันก็คงถึงเวลาแล้วจริงๆ
    • ถ้าคุณเพิ่งเจอผู้ชายคนนี้ คุณก็อาจจะไปเดตกันสัก 2-3 ครั้งก่อนขอเขาเป็นแฟน เพราะคุณอาจจะไม่ได้อยากผูกมัดกับคนที่คุณเพิ่งเจอ
    • หลายคนขออีกฝ่ายเป็นแฟนจริงจังหรือคบกันแค่สองคนหลังจากเดตกันได้ประมาณ 6 ครั้งหรือ 1 เดือน [5]
    • บางคนรอจนกระทั่งเดตไปแล้ว 3 เดือนค่อยคุยกัน
    • ถ้าคุณคบกันทางไกล คุณอาจจะเริ่มคุยเรื่องนี้กันตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะมันจะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกันว่าต้องทำตัวอย่างไรเวลาที่อยู่ไกลกัน[6]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 สังเกตว่าฝ่ายชายเขาอยากเป็นแฟนกับคุณไหม.
    คุณควรมีอะไรที่บอกคุณได้บ้างว่าเขารู้สึกอย่างไรกับคุณ ซึ่งวิธีเดียวที่จะมั่นใจว่าเขารู้สึกกับคุณอย่างไรแน่ๆ ก็คือถามเขา แต่ทั้งนี้คุณก็สามารถสังเกตสัญญาณที่อาจจะบ่งบอกถึงความรู้สึกของเขาได้เช่นเดียวกัน
    • ถ้าเขาพูดถึงแผนการในอนาคต ก็เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะตั้งใจจะคบกับคุณสักพัก[7]
    • ถ้าเขาโม้เรื่องคุณให้คนอื่นฟังโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเพื่อนๆ ของเขา ก็อาจจะบ่งบอกว่าเขาภูมิใจที่ได้คบกับคุณ[8]
    • ถ้าเขาส่งข้อความว่าคุณเป็นอย่างไรบ้างตลอดทั้งวัน ก็อาจจะแปลว่าเขาคิดถึงคุณบ่อยๆ[9]
    • ถ้าคุณเจอกันสัปดาห์ละหลายครั้งและใช้เวลาร่วมกันในวันหยุด ก็อาจเป็นสัญญาณว่าเขาเริ่มลงทุนกับคุณมากขึ้น[10]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เตรียมใจรับคำปฏิเสธ.
    แม้ว่าคุณจะหวังให้เขาตกลงเป็นแฟนกับคุณ แต่ก็นึกไว้ด้วยว่าเขาอาจจะปฏิเสธก็ได้ เขาอาจจะไม่พร้อมที่จะคบกับคุณจริงจังหรือไม่เขาก็อาจจะไม่ชอบคำแสดงสถานะหรือการใช้คำมาแปะป้ายเพื่ออธิบายความสัมพันธ์ ลองคิดดูว่าคุณจะตอบรับคำปฏิเสธอย่างไร
    • ถ้าคุณต้องการความสัมพันธ์ที่จริงจังกับใครสักคนที่คุณพร้อมจะผูกมัดกับคุณ คุณก็อาจจะต้องแยกทางกับเขาถ้าเขาปฏิเสธ วิธีนี้จะช่วยเปิดโอกาสให้คุณได้เจอคนที่ต้องการความสัมพันธ์แบบจริงจังเหมือนกัน
    • ถ้าคุณพอใจกับความสัมพันธ์ คุณก็อาจจะตัดสินใจรักษาสถานะในปัจจุบันไว้ก่อนจนกว่าเขาจะพร้อมเป็นแฟนกับคุณ
    • ถ้าคุณมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งให้กับผู้ชายคนนี้จริงๆ คุณก็อาจจะต้องตัดสินใจว่า หลังจากนี้คุณยังอยากใช้เวลาร่วมกับเขาอยู่ไหม คุณอาจจะตัดสินใจเป็นแค่เพื่อนกันเฉยๆ หรือคุณอาจจะตัดสินใจตัดขาดการติดต่อจนกว่าคุณจะลืมเขาได้
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 วางแผนล่วงหน้า.
    มันจะง่ายกว่าถ้าคุณรู้ว่าตัวเองจะถามเขาเมื่อไหร่ คุณสามารถซ้อมพูดคุยได้ล่วงหน้า หรือรู้ว่าเวลาไหนที่เหมาะจะเกริ่นเรื่องนี้ขึ้นมา ไม่มีเวลาเหมาะสมที่ตายตัวว่าเมื่อไหร่ที่ควรขอผู้ชายเป็นแฟน เพราะฉะนั้นให้ประเมินสถานการณ์ส่วนตัวอย่างรอบคอบ
    • บางคนวางแผนเดตพิเศษและไม่พูดเรื่องนี้จนกว่าจะถึงตอนท้าย แต่บางคนก็รู้สึกว่าการพูดคุยเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเวลาที่เขาสองคนใช้เวลาร่วมกันตามลำพังมากกว่า แต่ไม่ว่าจะแบบไหน คุณก็ควรเลือกวันพิเศษไว้ล่วงหน้า
    • อย่าขอเขาเป็นแฟนตอนที่เขากำลังเครียด ไม่พอใจ หรือยุ่งอยู่ เขาอาจจะอึ้งกับคำถามของคุณ และมันก็อาจจะมีผลกับคำตอบของเขาก็ได้[11]
    • ถ้าคุณรู้สึกประหม่า วิตกกังวล หรือกระวนกระวาย คุณก็สามารถซ้อมสิ่งที่คุณจะพูดล่วงหน้าได้ ลองเริ่มบทสนทนาและถามคำถามหน้ากระจก[12]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เจอกันแบบต่อหน้า.
    คุณอาจจะอยากส่งข้อความหรือทักแชตไปถามเขามากกว่า แต่คำถามแบบนี้ถามต่อหน้าจะดีที่สุด เพราะการคุยแบบต่อหน้าทำให้คุณได้สำรวจทางเลือกต่างๆ ของความสัมพันธ์ และถ้าเขามีคำถามหรือความกังวลอะไร คุณก็สามารถจัดการเรื่องนี้ด้วยกันได้[13]
    • ถ้าคุณคบกันทางไกล การเจอกันแบบต่อหน้าก็อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าคุณจะคุยกันเรื่องนี้ตอนที่มาเจอกัน คุณอาจจะรอจนกว่าจะแยกกันค่อยถาม เผื่อว่าคุณได้รับคำตอบที่ไม่ตรงใจกลับมา แต่ถ้าคุณคุยกันแบบต่อหน้าไม่ได้จริงๆ การโทรหาเขาก็เป็นทางเลือกที่ดีรองลงมา
  3. How.com.vn ไท: Step 3 หาสถานที่ที่เหมาะจะคุยกัน.
    ไม่มีกฎตายตัวว่าคุณควรจะคุยเรื่องความสัมพันธ์กันที่ไหน แต่มันก็ควรเป็นที่ที่คุณทั้งคู่สามารถแสดงความรู้สึกและพูดคุยเรื่องอนาคตด้วยกันได้ ลองคิดดูว่าที่ไหนที่เหมาะกับคุณและเขา
    • คุณอาจจะคุยเรื่องนี้กันตอนที่คุณสองคนอยู่ด้วยกันตามลำพัง คุณอาจจะเกริ่นเข้าคำถามระหว่างที่เดินเล่นด้วยกันบนชายหาด ที่สวนสาธารณะ หรือในบ้านใครสักคนก็ได้
    • ถ้ามีสถานที่ที่พิเศษสำหรับคุณสองคน เช่น ที่ที่คุณไปเดตกันครั้งแรกหรืออนุสาวรีย์โปรดของคุณ คุณก็อาจจะเลือกคุยเรื่องนี้ที่นั่นเพื่อให้มันน่าจดจำยิ่งขึ้น
    • อย่าถามเขาตอนที่เขากำลังสนใจอย่างอื่นอยู่ อย่าถามตอนเขาดูหนัง ตอนที่คุณสองคนออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ หรือตอนที่เขาทำงานอยู่
    • ถ้าคุณถามเขาตอนที่คุณอยู่ในรถด้วยกันหรือกินข้าวด้วยกันในร้านอาหาร เขาอาจจะรู้สึกเหมือนติดกับ เพราะฉะนั้นให้คุยกันเรื่องนี้ในสถานที่ที่คุณทั้งคู่รู้สึกสบายใจ[14]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เกริ่นคำถามในช่วงเวลาที่เหมาะสม.
    ระหว่างที่คุณสองคนใช้เวลาด้วยกันในวันที่คุณวางแผนเอาไว้ คุณควรจะสงบสติอารมณ์ให้ผ่อนคลาย รอจนกว่าจะถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมค่อยเกริ่นเรื่อง รอจนกว่าจะถึงช่วงเวลาที่คุณรู้สึกว่ามัน “ใช่” หรือ “พิเศษ” แต่ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าแบบไหนที่เรียกว่าใช่หรือพิเศษ ก็มีแนวทางพื้นฐานที่คุณสามารถเก็บไปพิจารณาได้
    • ถ้าเขาชมคุณ คุณก็อาจจะชมเขากลับ เริ่มบทสนทนาว่าคุณชอบอะไรในตัวกันและกัน วิธีนี้เป็นการพูดเข้าเรื่องความสัมพันธ์อย่างเป็นธรรมชาติ
    • ถ้ามันมีช่วงที่ต่างคนต่างเงียบ คุณก็อาจจะเกริ่นเรื่องนี้ขึ้นมา บอกว่าตอนนี้คุณมีความสุขแค่ไหน และดูว่าจะมีการคุยเรื่องนี้ผุดขึ้นมาหรือเปล่า
    • พอถึงช่วงท้ายของการเดตหรือก่อนแยกย้ายหลังจากใช้เวลาร่วมกัน คุณก็อาจจะพูดว่า “ก่อนที่คุณจะกลับ ฉันขอคุยอะไรกับคุณหน่อยสิ”
  5. How.com.vn ไท: Step 5 คิดดูว่าจะรอให้ผู้ชายเป็นฝ่ายพูดก่อนไหม.
    ถ้าการพยายามทำให้คุณได้เรียกเขาว่า “แฟน” สักทีไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญมากขนาดนั้น คุณก็อาจจะรอเพื่อดูว่าเขาจะเป็นฝ่ายพูดเรื่องนี้ก่อนหรือเปล่า วิธีนี้ยังช่วยให้คุณรู้สึกได้ว่า เขาสบายใจกับการใช้คำแสดงสถานะหรือการใช้คำมาแปะป้ายความสัมพันธ์หรือเปล่า และมันอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีก็ได้ถ้าคุณเองก็ไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง หรือถ้าคุณคิดว่าเขาเองยังไม่แน่ใจเรื่องความสัมพันธ์
    • แต่ก็อย่ารอเขาเป็นฝ่ายถามก่อนไปตลอดกาล กำหนดวันที่เอาไว้ก่อนที่คุณจะถามเขา เช่น คุณอาจจะให้เวลาเขา 1 เดือนก่อนเป็นฝ่ายถามเขาเอง
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ถามคำถาม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เริ่มจากคำชม.
    บอกผู้ชายว่าคุณชอบอะไรในตัวเขา คำเยินยอจะทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายและทำให้คุณถามเกริ่นเรื่องความสัมพันธ์ได้ง่ายขึ้นด้วย คำชมเกี่ยวกับอารมณ์ขัน ความฉลาด หรือความใจดีเป็นวิธีที่ดีในการส่งสัญญาณว่า คุณคิดอย่างไรกับเขา[15]
    • คุณอาจจะพูดว่า “คุณรู้ไหม คุณตลกมากเลย ฉันไม่เคยเจอผู้ชายแบบคุณมาก่อน”
    • อีกหนึ่งคำชมที่ดีก็คือ “คุณเป็นคนเอาใจใส่ ฉันประทับใจในสิ่งที่คุณทำมากๆ”
    • ถ้าเขายิ้ม พูดขอบคุณ หรือชมคุณกลับ ก็อาจจะเป็นสัญญาณที่ดีว่าเขาเองก็รู้สึกแบบเดียวกันกับคุณ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 อธิบายความรู้สึกที่คุณมีต่อเขา.
    เมื่อคุณเริ่มเกริ่นในช่วงที่บรรยากาศเป็นใจแล้ว คุณก็อาจจะเริ่มอธิบายความรู้สึกของคุณได้ง่ายขึ้น ถ้าคุณได้รับการตอบสนองที่ดีกลับมาหลังจากกล่าวชมเขา คุณก็อาจจะอยากเจาะลึกเข้าไปในความรู้สึกของคุณ อธิบายว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับเขา คุณอาจจะอธิบายว่าที่ผ่านมาคุณมีความสุขเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน หรือว่าคุณเริ่มมีความรู้สึกดีๆ ให้กับเขา
    • คุณอาจจะพูดว่า “ที่ผ่านมาฉันมีความสุขมากที่ได้อยู่กับคุณ คุณไม่เหมือนใครเลยจริงๆ และฉันก็คิดเรื่องความสัมพันธ์ของเรามาพักใหญ่แล้ว”
    • ในจุดนี้คุณไม่ควรบอกไปว่าคุณรักเขา เพราะเขาอาจจะกลัวหรือกังวลว่าความสัมพันธ์มันจะพัฒนาเร็วเกินไป แต่คุณอาจจะบอกว่าคุณ “เริ่มมีความรู้สึกดีๆ ให้เขา” หรือว่าคุณ “ชอบ” เขาจริงๆ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ถามว่าเขาอยากเป็นแฟนกับคุณหรือเปล่า.
    การถามเขาออกไปตรงๆ ว่า เขาพร้อมจะเป็นแฟนกับคุณหรือเปล่านั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุด ซึ่งคุณก็สามารถเกริ่นเข้าคำถามนี้ได้หลายวิธีด้วยกันแล้วแต่สถานการณ์
    • คุณอาจจะถามเขาตรงๆ ด้วยการพูดว่า “คุณอยากทำให้มันเป็นเรื่องเป็นราว คุณอยากเป็นแฟนกับฉันไหม”
    • ถ้าคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับสถานะของความสัมพันธ์ คุณก็อาจจะถามออกไปว่า “คุณว่าความสัมพันธ์ของเราจะไปทางไหนต่อ”
    • ถ้าคนใดคนหนึ่งเดตกับคนหลายคน คุณก็อาจจะถามว่า “คุณอยากจะคบฉันแค่คนเดียวไหม”
    • ถ้าคุณอยากจะเข้าใจว่าเขามองคุณอย่างไร คุณก็อาจจะพูดออกไปว่า “ ฉันอยากรู้ว่าจะต้องบอกคนอื่นยังไงเวลาที่มีคนถามว่าตกลงเราเป็นอะไรกัน คุณจะพูดว่าคุณเป็นแฟนกับฉันหรือเปล่า”
  4. How.com.vn ไท: Step 4 บอกสิ่งที่คาดหวัง.
    คุณสองคนอาจจะมีความคิดเรื่องความสัมพันธ์ที่มั่นคงไม่เหมือนกันก็ได้ เขาอาจจะพร้อมคบกับคุณคนเดียวแต่อาจจะยังไม่พร้อมไปเจอครอบครัวของคุณ เขาอาจจะอยากมีเซ็กส์แต่คุณอยากรอก่อน เวลาที่คุยกัน คุณสองคนควรพูดออกมาให้ชัดเจนเลยว่า คุณคาดหวังอะไรจากการคบกัน[16]
    • คุณอาจจะเข้าเรื่องด้วยการถามเขาว่า “การเป็นแฟนหมายถึงอะไรในความคิดของคุณ”
    • ตอบคำถามอย่างซื่อสัตย์ถ้าเขาถามว่า คุณคาดหวังอะไรจากความสัมพันธ์ เช่น คุณอาจจะพูดว่า "ฉันคาดหวังว่าผู้ชายจะรักเดียวใจเดียวและซื่อสัตย์กับฉัน ฉันยังไม่พร้อมที่จะแต่งงานหรอก แต่ฉันก็อยากสำรวจความเป็นไปได้ของความสัมพันธ์ที่จริงจังกว่านี้"
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ให้เวลาเขาตอบกลับมา.
    เขาอาจจะรู้สึกกดดันหรืออึดอัดกับคำถาม ถ้าเขาดูกังวล ไม่สบายใจ หรือลังเล คุณก็อาจจะให้เวลาเขาสักวันสองวันเพื่อทบทวนคำตอบ ถึงมันจะดูเหมือนว่าเขาพยายามที่จะไม่ผูกมัด แต่เขาก็อาจจะแค่ต้องการเวลาคิดทบทวนว่าเขาพร้อมหรือยังเท่านั้นเอง[17]
    • คุณอาจจะพูดว่า “ถ้าคุณขอเวลาคิดดูก่อน ก็ตามสบายเลยนะ ค่อยๆ คิดก่อนตัดสินใจ”
    • ถ้าเขาขอพื้นที่ส่วนตัว ก็ให้พื้นที่กับเขา คุณอาจจะพูดว่า “คุณคิดว่าคุณต้องใช้เวลาคิดเรื่องนี้นานเท่าไหร่” และพยายามอย่าถามเรื่องนี้อีกจนกว่าจะเลยเวลานั้นไปแล้ว
    • ถ้าเขาไม่ได้กำหนดช่วงเวลามาให้ คุณก็อาจจะถามเขาอีกครั้งหลังจากผ่านไปแล้ว 2-3 วัน ถามเขาว่า “ฉันแค่อยากรู้ว่าคุณทบทวนเรื่องความสัมพันธ์ของเราแล้วหรือยัง คุณตัดสินใจได้แล้วหรือยังว่าเรายืนอยู่จุดไหน”
    • อย่าส่งข้อความ โทรหา หรือทักแชตเพื่อคุยเรื่องนี้อย่างบ้าคลั่ง ถ้าเขาไม่ได้ตอบกลับมาแบบตรงไปตรงมาในทันที คุณก็อาจจะส่งข้อความหาเขาหลังจากถามคำถามไปแล้ว หรือถามอีกครั้งหลังจากผ่านไปแล้ววันสองวัน ให้พื้นที่กับเขาถ้าเขาต้องใช้พื้นที่ในการตัดสินใจ
  6. How.com.vn ไท: Step 6 รับมือกับคำปฏิเสธอย่างสุภาพ.
    ถ้าเขาบอกว่าเขาไม่อยากเป็นแฟนกับคุณ พยายามคิดบวกเข้าไว้ พยายามยิ้มออกมาและบอกเขาว่าคุณเข้าใจ เขาอาจจะพอใจกับการมีความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดต่อไปหรือเขาอาจจะจบทุกอย่างตรงนี้ ทบทวนความรู้สึกของตัวเองก่อนตัดสินใจ
    • ถ้าเขาอยากจะจบความสัมพันธ์ตรงนี้ ให้เคารพสิ่งที่เขาเลือก ขอบคุณเขาสำหรับเวลาที่ผ่านมาร่วมกัน แต่ก็บอกเขาด้วยว่าคุณเข้าใจ คุณอาจจะพูดว่า “ฉันเสียใจที่ได้ยินแบบนั้น แต่ที่ผ่านมาอยู่กับคุณแล้วสนุกมากเลย ฉันขอให้คุณโชคดีนะ”
    • ถ้าเขาอยากมีความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดต่อไปแต่คุณอยากยุติความสัมพันธ์ตรงนี้ คุณก็อาจจะพูดว่า “ฉันว่าถ้าอย่างนั้นเราก็ไม่ควรมาเจอกันแล้วดีกว่า” ถ้าเขาถามว่าทำไม ก็แค่พูดออกไปว่า “เพราะดูเหมือนว่าเราไม่ได้ต้องการสิ่งเดียวกัน”
    • เขาอาจจะบอกว่าเขายังอยากเป็นเพื่อนกับคุณอยู่ อย่าตอบตกลงยกเว้นว่าคุณจะเต็มใจเป็นแค่เพื่อนกับเขาจริงๆ ถ้าคุณรู้สึกว่ามันยาก ก็บอกไปตรงๆ ว่า “ฉันว่ามันไม่น่าจะโอเคสำหรับฉันหรอก คุณเป็นผู้ชายที่ดีมากเลยนะ แต่ฉันคิดว่าฉันต้องการพื้นที่ส่วนตัว”
    • ผู้ชายบางคนอาจจะ “เท” คุณหรือเลิกติดต่อกับคุณ และเป็นเรื่องธรรมดาที่คุณจะรู้สึกไม่โอเค แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ชอบคุณเสมอไป เขาอาจจะแค่รู้สึกกระอักกระอ่วนกับสถานการณ์นี้ก็ได้[18]
    โฆษณา

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

'ถ้าคุณอยากขอผู้ชายเป็นแฟน ให้ทำตามเคล็ดลับต่อไปนี้เพื่อให้รู้ว่า เขารู้สึกอย่างไร :

  • ตรงไปตรงมา มันอาจจะฟังดูน่ากลัว แต่วิธีที่ดีที่สุดในการขอผู้ชายเป็นแฟนก็คือ การพูดออกมาว่าคุณรู้สึกอย่างไร และคุณอาจจะถามคำถาม เช่น "คุณวางแผนเรื่องของเราไว้ยังไง" หรือ "คุณคิดว่าความสัมพันธ์ของเราจะไปทางไหน"
  • ถามเขาถึงความสัมพันธ์ก่อนหน้า ในการจะเข้าเรื่องเพื่อขอผู้ชายเป็นแฟนนั้น ให้ลองถามเขาก่อนว่า กับแฟนคนแรกเขาใช้เวลานานแค่ไหนกว่าเขากับคนรักจะตกลงคบกัน วิธีนี้จะช่วยให้คุณประเมินได้ว่า เขาใช้เวลาแค่ไหนกว่าจะเริ่มชอบใครสักคน
  • สังเกตปฏิกิริยาของเขา เวลาที่คุณชวนใครสักคนไปเดต จำไว้ว่าการไม่ตอบคือคำตอบในตัวเอง ถ้าเขาพูดประมาณว่า "อ๋อ คือผมพยายามทบทวนตัวเองอยู่น่ะ" ก็เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะไม่ได้อยากไปเดตกับคุณ แต่ก็ไม่มั่นใจพอที่จะพูดออกมาตรงๆ

เคล็ดลับ

  • แต่ละความสัมพันธ์ดำเนินไปตามเงื่อนไขและช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ไม่ต้องรู้สึกกดดันหรืออับอายที่ความสัมพันธ์ของคุณไม่ได้ก้าวหน้าเร็วเท่ากับความสัมพันธ์ของเพื่อนๆ
  • ถ้าคุณเพิ่งเจอคนที่คุณชอบ อย่ารีบร้อน ทำความรู้จักกับเขาและอาจจะลองใช้เวลาร่วมกันก่อน
  • บอกความคาดหวังที่มีต่อความสัมพันธ์อย่างชัดเจน จะได้ไม่มีใครเจ็บปวด
  • หลังจากที่คบกันได้สักพัก ให้เว้นระยะก่อนเข้าสู่ความสัมพันธ์ขั้นถัดไป แม้ว่าแต่ละความสัมพันธ์จะดำเนินไปตามความเร็วของตัวเอง แต่เขาก็อาจจะยังไม่พร้อมเข้าสู่ขั้นตอนถัดไปที่จริงจังมากขึ้น เช่น ไปพบพ่อแม่ของคุณหรือย้ายไปอยู่กับคุณก็ได้
โฆษณา

คำเตือน

  • เป็นเรื่องปกติที่คุณจะเสียใจ ไม่พอใจ หรือหดหู่หลังจากถูกปฏิเสธ พยายามเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองด้วยการทำกิจกรรมที่คุณชอบ และใช้เวลาร่วมกับเพื่อนๆ
  • อย่าไประรานหรือก่อกวนผู้ชายเพื่อให้เขามาเป็นแฟนกับคุณ ถ้าเขาไม่สนใจ สิ่งที่ดีที่สุดก็คือก้าวเดินต่อไป
  • อย่าโกรธถ้าเขาไม่อยากเป็นแฟนกับคุณ เพราะอาจจะมีเหตุผลมากมายที่ทำให้เขาต้องปฏิเสธ เขาอาจจะยังไม่อยู่ในจุดที่พร้อมจะมีความสัมพันธ์ หรือคุณสองคนอาจจะไม่เหมาะสมกันก็ได้
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Imad Jbara
ร่วมเขียน โดย:
โค้ชด้านการออกเดท
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Imad Jbara. อิหมัด จาบาราเป็นโค้ชด้านการเดทสำหรับ NYC Wingwoman LLC ผู้ให้บริการด้านความสัมพันธ์ในนิวยอร์ก 'NYC Wingwoman' ให้บริการจับคู่ โค้ชแบบตัวต่อตัว และเปิดแคมป์วันหยุด อิหมัดให้บริการลูกค้ากว่า 100 รายทั้งชายและหญิงเพื่อพัฒนาการออกเดทของพวกเขาผ่านทางทักษะการสื่อสารอย่างจริงใจ เขาได้รับปริญญาทางจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยแมสซาชูเซ็ตต์ดาร์ทเมาธ์ บทความนี้ถูกเข้าชม 16,244 ครั้ง
หมวดหมู่: ความรัก
มีการเข้าถึงหน้านี้ 16,244 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา