วิธีการ ขจัดคราบเหลืองบนเสื้อผ้าสีขาว

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป

ใช้ผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวันที่หาได้จากในบ้าน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

เป็นที่รู้กันดีว่าไม่มีอะไรสกปรกได้ง่ายเท่ากับเสื้อผ้าสีขาว คราบเหลืองต่างๆ ที่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากเหงื่อจากรักแร้ ขี้สนิม หรือเครื่องดื่มเกลือแร่สามารถสร้างความเสียหายให้กับเสื้อเชิ้ต กางเกง หรือชุดเครื่องนอนสีขาวของคุณจนดูหมองไม่สดใสได้ แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไป มีหลายวิธีการที่ช่วยให้คุณสามารถขจัดคราบเหลืองที่ไม่พึงประสงค์บนเสื้อผ้าสีขาวของคุณได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไปหรือผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวันที่หาได้จากในบ้านซึ่งล้วนเป็นตัวช่วยชั้นดีในการทำให้เสื้อผ้าสีขาวของคุณกลับมาดูขาวสะอาดเหมือนใหม่ได้อีกครั้ง

ขั้นตอน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 2:

ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ใช้น้ำยาขจัดคราบเพื่อช่วยในการขจัดคราบเปื้อนบนเสื้อผ้า. น้ำยาซักผ้าที่มีคุณสมบัติเฉพาะในการขจัดคราบเปื้อนเป็นหนึ่งในวิธีการง่ายๆ ในการขจัดคราบเหลืองบนเสื้อผ้าของคุณ เพียงซักเสื้อผ้าของคุณในเครื่องซักผ้าตามปกติด้วยน้ำยาขจัดคราบเพื่อช่วยในการขจัดคราบเปื้อนในขั้นต้น

   • น้ำยาซักผ้าที่วางขายตามท้องตลาดโดยส่วนใหญ่ไม่เพียงช่วยในการขจัดคราบเปื้อนเท่านั้น แต่ยังสามารถเพิ่มกลิ่นหอมให้กับเสื้อผ้าหลังการซักเสร็จได้อีกด้วย
   • คุณสามารถหาซื้อน้ำยาขจัดคราบได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านค้าปลีกทั่วไป
2. 
   2
   ซักผ้าด้วยน้ำยาฟอกขาว 1 ฝาสำหรับผ้าเนื้อหนาแน่น. เทน้ำยาฟอกขาว 1 ฝาลงไปในเครื่องซักผ้าร่วมกับน้ำยาซักผ้าเพื่อขจัดคราบเหลืองพร้อมคืนความสว่างสดใสให้กับเสื้อผ้าของคุณ อย่างไรก็ตาม ควรแน่ใจว่าเสื้อผ้าของคุณสามารถซักด้วยน้ำยาฟอกขาวได้อย่างปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาฟอกขาวกับผ้าสีหรือผ้าเนื้อบอบบางเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อเสื้อผ้าของคุณได้

   • ลองอ่านบนป้ายเสื้อผ้าเพื่อเช็คดูว่าเสื้อผ้าของคุณสามารถซักด้วยน้ำยาฟอกขาวได้หรือไม่ หากมีสัญลักษณ์สามเหลี่ยมสีขาวบนป้ายเสื้อผ้า แสดงว่าเสื้อผ้าสามารถซักด้วยน้ำยาฟอกขาวได้อย่างปลอดภัย แต่หากมีเส้นทแยงมุมอยู่ตรงกึ่งกลางสามเหลี่ยม แสดงว่าเสื้อผ้าสามารถซักได้ด้วยน้ำยาฟอกขาวที่ไม่มีส่วนผสมของคลอรีนเท่านั้น
   • หากมีสัญลักษณ์สามเหลี่ยมสีเข้มพร้อมเครื่องหมายกากบาทด้านบน แสดงว่าเสื้อผ้าห้ามซักด้วยน้ำยาฟอกขาวโดยเด็ดขาด
3. 
   3
   เติมครามปรับผ้าขาวเพื่อขจัดคราบและเพิ่มความขาวให้กับเสื้อผ้า. ครามปรับผ้าขาวมีคุณสมบัติในการย้อมเสื้อผ้าของคุณให้มีสีฟ้าจางๆ ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับสีเหลืองของคราบก็จะช่วยให้ผ้าดูขาวสว่างยิ่งขึ้น ผสมครามปรับผ้าขาวในน้ำเย็นในปริมาณตามที่ระบุไว้ข้างขวด จากนั้นเติมลงไปในเครื่องซักผ้าร่วมกับน้ำยาซักผ้าและเสื้อผ้าที่มีคราบเปื้อนก่อนซักตามปกติ

   • คุณสามารถหาซื้อครามปรับผ้าขาวได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านค้าปลีกทั่วไป
   • จำไว้ว่าครามปรับผ้าขาวไม่ใช่สารทำความสะอาด ดังนั้นแม้ว่าจะสามารถหักล้างสีเหลืองของคราบจนทำให้ผ้าดูขาวสว่างขึ้น แต่ครามปรับผ้าขาวไม่มีคุณสมบัติใดๆ ในการทำความสะอาดเสื้อผ้าของคุณ
4. 
   4
   ซักผ้าด้วยบอแรกซ์หากคราบเปื้อนมีกลิ่นร่วมด้วย. บอแรกซ์เป็นแร่ธาตุที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่มีส่วนช่วยในการขจัดคราบเปื้อนบนเสื้อผ้ารวมทั้งดับกลิ่นและคืนความสว่างสดใส เติมบอแรกซ์ 0.5 ถ้วย (120 มิลลิลิตร) ลงไปในเครื่องซักผ้าร่วมกับน้ำยาซักผ้าในการซักรอบแรกเพื่อขจัดคราบเปื้อนที่มีกลิ่นแรง

   • บอแรกซ์ยังเป็นสารทำความสะอาดอเนกประสงค์ที่สามารถนำไปใช้ในการทำความสะอาดภายในรถยนต์ ที่นอนสัตว์เลี้ยง หรือแม้กระทั่งเครื่องซักผ้าที่คุณเพิ่งใช้ในการซักเสื้อผ้าของคุณ
5. 
   5
   ใช้น้ำยาล้างคราบสนิมเพื่อขจัดคราบเหลืองที่เกิดจากขี้สนิม. หากคราบเปื้อนบนเสื้อผ้าของคุณมีสาเหตุเกิดจากขี้สนิม คุณอาจมองหาน้ำยาที่มีคุณสมบัติเฉพาะในการในการขจัดคราบสนิมที่มีให้เลือกซื้อมากมายตามท้องตลาด เทน้ำยาล้างคราบสนิมลงในเครื่องซักผ้าในระหว่างที่กำลังเติมน้ำเข้าเครื่องและแช่เสื้อผ้าทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นเติมน้ำยาซักผ้าลงไปก่อนเริ่มต้นซักเสื้อผ้าตามปกติ

   • ปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้ที่ระบุไว้ข้างขวดอย่างเคร่งครัด เนื่องจากไอระเหยจากน้ำยาล้างคราบสนิมอาจก่อให้เกิดอันตรายได้เมื่อสูดดมเข้าไป
   • เพื่อความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ให้คุณสวมถุงมือยางตลอดเวลาในระหว่างการใช้น้ำยาล้างคราบสนิม
   โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 2:

ใช้ผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวันที่หาได้จากในบ้าน

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ น้ำยาล้างจาน และเบคกิ้งโซดาสำหรับขจัดคราบที่หลุดออกยาก. ผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ น้ำยาล้างจาน และเบคกิ้งโซดาอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร) ให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวและใช้ด้านหลังของช้อนป้ายลงบนคราบเปื้อนให้ทั่ว ทิ้งไว้นาน 1 ชั่วโมงก่อนนำเสื้อผ้าไปซักตามปกติ

   • จำไว้ว่าสีของน้ำยาล้างจานอาจเปื้อนบนเสื้อผ้าของคุณได้ คุณจึงอาจเลือกใช้น้ำยาล้างจานแบบใสที่ไม่มีสีเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าว
   • หากคราบเปื้อนยังคงไม่หายไปหลังการทำในครั้งแรก ให้คุณลองใช้ส่วนผสมดังกล่าวป้ายลงไปอีกครั้งเพื่อขจัดคราบเปื้อนให้หลุดออกไป
   เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

   

   Susan Stocker

   ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดแบบรักษ์ธรรมชาติ

   ซูซาน สต็อกเกอร์เป็นเจ้าของบริษัท #1 Green Cleaning Company ในซีแอตเทิล เธอโด่งดังในย่านนั้นด้วยการบริการที่โดดเด่น เคยชนะรางวัล Better Business Torch Award for Ethics & Integrity ในปี 2007 และการที่เธอสนับสนุนการจ่ายค่าจ้างอย่างเป็นธรรม สิทธิประโยชน์สำหรับลูกจ้าง และการทำความสะอาดแนวรักษ์โลก

   

   Susan Stocker
   ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดแบบรักษ์ธรรมชาติ

   คุณยังสามารถใช้เบคกิ้งโซดาเพียงอย่างเดียวก็ได้เช่นกัน ผสมเบคกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะเข้ากับน้ำอุ่น 1 ลิตรและนำไปขัดตรงบริเวณที่เกิดคราบเหลืองบนเสื้อผ้าของคุณ ทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมงก่อนล้างออกให้สะอาดและเช็คดูว่าคราบเปื้อนหลุดออกไปแล้วหรือไม่ หากไม่มีคราบเปื้อนหลงเหลือแล้ว ให้คุณนำเสื้อผ้าไปซักตามปกติ แต่หากคราบเปื้อนยังคงอยู่ ให้คุณทำวิธีนี้ซ้ำอีกครั้งหนึ่งจนกระทั่งคราบเปื้อนหลุดออกไปจนหมด
2. 
   2
   เพิ่มน้ำส้มสายชูลงไปในการซักผ้าเพื่อช่วยขจัดคราบเปื้อนและเพิ่มความนุ่มให้กับเสื้อผ้า. น้ำส้มสายชูกลั่นมีคุณสมบัติเป็นทั้งน้ำยาขจัดคราบและน้ำยาปรับผ้านุ่มเมื่อใช้ในการซักผ้า เติมน้ำส้มสายชู 0.25 ถ้วย (60 มิลลิลิตร) ลงไปในเครื่องซักผ้าในระหว่างการล้างน้ำเปล่าเพื่อช่วยให้เสื้อผ้าของคุณขาวสะอาดและนุ่มยิ่งขึ้น

   • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำส้มสายชูร่วมกับน้ำยาฟอกขาวที่มีส่วนผสมของคลอรีนเพราะสามารถก่อให้เกิดไอระเหยที่อาจเป็นอันตรายเมื่อสูดดมเข้าไปได้
   • จำไว้ว่าการใช้น้ำส้มสายชูในการซักผ้าอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าไหม ผ้าอะซิเตต หรือผ้าเรยอนได้
3. 
   3
   เติมน้ำเลมอนร่วมกับน้ำยาซักผ้าในการซักผ้า. น้ำเลมอนไม่เพียงช่วยในการขจัดคราบเปื้อนเท่านั้น แต่ยังสามารถเพิ่มกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเลมอนให้กับเสื้อผ้าของคุณได้อีกด้วย เติมน้ำเลมอน 1 ถ้วย (240 มิลลิลิตร) ลงไปในเครื่องซักผ้าร่วมกับน้ำยาซักผ้าก่อนซักตามปกติ

   • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำเลมอนกับผ้าสีเพราะอาจทำให้สีตกได้
4. 
   4
   ขัดเสื้อผ้าคอตตอนด้วยยาสีฟันสูตรฟันขาวก่อนนำไปซักตามปกติ. นอกเหนือจากใช้ในการแปรงฟันแล้ว ยาสีฟันยังมีคุณประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการช่วยขจัดคราบเปื้อนบนเสื้อผ้าให้หลุดออกไป เริ่มจากจุ่มเสื้อผ้าลงไปในน้ำให้เปียกชุ่ม จากนั้นใช้แปรงสีฟันป้ายยาสีฟันลงไปตรงบริเวณที่เกิดคราบเหลืองให้เป็นชั้นบางๆ และขัดไปมาประมาณ 30 วินาทีก่อนล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า

   • เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ให้คุณเลือกใช้ยาสีฟันที่มีคุณสมบัติช่วยให้ฟันขาว รวมทั้งหลีกเลี่ยงการใช้ยาสีฟันที่มีสีสันต่างๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดคราบเปื้อนเพิ่มขึ้นบนเสื้อผ้าสีขาวของคุณ
   • วิธีการขจัดคราบเปื้อนด้วยยาสีฟันสามารถใช้ได้ผลดีกับเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าคอตตอน แต่อาจไม่เห็นผลมากเท่าไรนักสำหรับผ้าประเภทอื่นๆ
5. 
   5
   ขจัดคราบเปื้อนด้วยยาแอสไพรินบดผสมน้ำเปล่า. บดยาแอสไอริน 3-4 เม็ดให้เป็นผงละเอียดและผสมกับน้ำร้อน 0.5 ถ้วย (120 มิลลิลิตร) จนกระทั่งมีเนื้อสัมผัสที่ข้น จากนั้นป้ายลงบนบริเวณที่เกิดคราบเหลืองและทิ้งไว้นาน 2 ชั่วโมง เมื่อเสร็จแล้วจึงนำเสื้อผ้าลงซักในเครื่องซักผ้าตามปกติโดยตั้งโปรแกรมซักด้วยน้ำร้อน

   • วิธีการขจัดคราบเปื้อนด้วยยาแอสไพรินบดสามารถใช้ได้ผลดีเนื่องจากกรดซาลิไซลิคซึ่งเป็นส่วนผสมหลักในยาแอสไพรินมีประสิทธิภาพในการขจัดคราบเปื้อนเช่นเดียวกับน้ำส้มสายชูและน้ำเลมอน
   • จำไว้ว่ายาแอสไพรินบดควรใช้กับผ้าขาวอย่างเดียวเท่านั้นเพราะอาจทำให้เกิดคราบเปื้อนบนผ้าสีได้
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• หลายคนพบว่าคราบเหลืองบนเสื้อผ้าสีขาวสามารถขจัดออกไปได้ด้วยวอดก้า ดังนั้นหากคุณมีวอดก้าที่บ้านและต้องการลองขจัดคราบเปื้อนด้วยวอดก้าของคุณ ให้คุณใช้วอดก้าแตะลงไปตรงบริเวณที่เกิดคราบเปื้อนก่อนเสื้อผ้านำลงซักในเครื่องซักผ้าตามปกติ
• ในกรณีที่คราบเหลืองมีสาเหตุเกิดจากคราบเปื้อนของดอกไม้ ให้คุณใช้เทปกาวกำจัดละอองเกสรดอกไม้ออกไปให้เรียบร้อยก่อนทำความสะอาดเสื้อผ้าด้วยวิธีต่างๆ ที่กล่าวไว้ข้างต้น

โฆษณา