วิธีการ กำจัดฝุ่นผงติดตามเสื้อผ้า

อุตส่าห์แต่งองค์ทรงเครื่องซะสวยงาม คงน่าเสียดายถ้ามีฝุ่นผงต่างๆ ติดตามตัวซะอย่างนั้น โดยเฉพาะชุดสีเข้มๆ ดำๆ บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำ 2 - 3 วิธีง่ายๆ ในการกำจัดปัญหาฝุ่นผงกวนตัวกวนใจ แล้วชุดคุณจะสวยเนี้ยบอย่างที่ควรจะเป็นในพริบตา

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 3:

ใช้อะไรแปะหรือขัดถู

ดาวน์โหลดบทความ

มีขายแถวแผนกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในซูเปอร์มาร์เก็ต จริงๆ ตามร้านสะดวกซื้อ กับร้านขายของใช้สัตว์เลี้ยงก็มีเหมือนกัน ให้แกะกระดาษที่ห่อแถบกาวของลูกกลิ้งออก แล้วเอาไปกลิ้งที่ผ้าแบบขึ้น-ลง ถ้าใช้ไปสักพักจะรู้สึกว่าแถบกาวไม่ค่อยเหนียวแล้ว ก็ให้ลอกแผ่นกาวเก่าทิ้งไป จะมีแผ่นกาวใหม่ข้างใต้ ก็ทำซ้ำไปเรื่อยๆ จนไม่เหลือฝุ่นผงติดเสื้อผ้า
พอแผ่นกาวหมด ก็มีม้วนกาวขายแบบรีฟิล หรือ จะซื้อใหม่ทั้งลูกกลิ้งเลยก็ได้
ลูกกลิ้งแบบใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ ก็มี แทนที่จะเป็นกระดาษกาว ก็เป็นเจลเหนียวๆ แทน พอสกปรกเมื่อไหร่ก็เอาไปล้างน้ำฟอกสบู่ จากนั้นผึ่งให้แห้ง
2
ทำลูกกลิ้งกำจัดฝุ่นใช้เอง. ที่ต้องใช้ก็คือม้วนเทปกาวติดกล่อง กับไม้นวดแป้ง ให้ดึงเทปกาวให้ยาวออกมานิดๆ แล้วใช้แปะปลายไม้นวดแป้งข้างหนึ่ง โดยที่แถบกาวอยู่ด้านบน ด้านเรียบแนบไม้นวดแป้ง พันเทปรอบไม้นวดแป้งวนเฉียงไปเรื่อยๆ เหมือนลายลูกกวาดคริสต์มาส (candy cane) แต่ละครั้งให้เหลื่อมกันนิดหน่อย พอพันจนสุดปลายไม้อีกข้าง ก็ตัดเทปได้เลย เทปจะพันติดอยู่กับไม้นวดแป้ง แต่ถ้าติดไม่อยู่ ให้ติดเทปชิ้นเล็กๆ ยึดไว้
- วิธีใช้ก็เอาไม้นวดแป้งไปกลิ้งกำจัดฝุ่นที่เสื้อผ้าได้เลย มีที่จับ 2 ด้านอีกต่างห่าง ให้กลิ้งขึ้น-ลงตามปกติ จนไม่เหลือฝุ่นผง
ตัดเทปกาวติดกล่องให้ใหญ่กว่าความกว้างของมือประมาณ 2 เท่า มือที่จะพันเทปต้องแบ ไม่กางนิ้ว จากนั้นเอาเทปพันรอบมือโดยให้ด้านกาวอยู่ข้างบน แต่ละรอบให้พันทับเหลื่อมกันไป เสร็จแล้วเอามือไปแปะตามบริเวณที่มีฝุ่นผงได้เลย พอเทปกาวหายเหนียวแล้ว ก็ให้หมุนเทปด้านใหม่ขึ้นมาแล้วแปะฝุ่นผง จนกระทั่งไม่เหลือเทปกาวใหม่อีก
4
ตัดเทปเป็นชิ้น. หาเทปกาวติดกล่องมา แล้วตัดเป็นชิ้นยาวประมาณ 2 - 3 นิ้ว (5 - 8 ซม.) จากนั้นเอาไปติดตามบริเวณที่มีฝุ่นผงได้เลย ให้เทปไปในทิศทางเดียวกับลายทอของผ้า (ปกติคือขึ้น-ลง) จากนั้นเอานิ้วลูบให้เทปเรียบเนียนไปกับผ้า แล้วดึงออก
- ยิ่งหน้าเทปกว้าง ก็ยิ่งติดได้ครอบคลุม พยายามใช้เทปที่หน้ากว้างประมาณ 2 นิ้ว (5 ซม.)
เป็นอุปกรณ์แบบใส่ถ่าน ใช้โกนขุยบนเสื้อผ้าได้เลย แค่เปิดเครื่องแล้วไถไปตามเนื้อผ้าเบาๆ เสร็จแล้วก็เปิดช่องเก็บฝุ่นเทเศษผงในนั้นทิ้งได้เลย
ขัดเสื้อหนาว (สเวตเตอร์หรือ fleece) ด้วยหินภูเขาไฟหรือ "sweater stone". หินภูเขาไฟหรือหินขัดก็ใช้กำจัดฝุ่นผงที่ติดตามเสื้อผ้าได้ ให้ขัดไปตามลายทอของผ้า อย่าขัดทวน ที่สำคัญคืออย่าขัดแรงเกินไป หรือขัดวนอยู่ที่เดียว pumice stone หรือหินภูเขาไฟ/หินขัดนี้จะขูดเนื้อผ้าชั้นบนออกไป ถ้าไปขัดวนอยู่จุดเดียว ระวังเสื้อจะเป็นรู
ห้ามขัดผ้าคอตตอนหรือวูล และยิ่งห้ามขัดผ้าบางๆ มันๆ อย่างผ้าไหมหรือผ้าซาติน
ฝุ่นผงส่วนใหญ่จะถูกลากไปรวมกันที่ด้านล่างของผ้า ก็ใช้เทปหรือ lint roller แปะออกไปได้เลยทั้งกระจุก
ให้ขัดบนโต๊ะหรือโต๊ะที่มีผ้าปูโต๊ะ; เวลาเก็บเศษผงที่กระจายออกมาจะได้ง่ายหน่อย
หาซื้อเวลโครเทปมาแล้วตัดเป็นชิ้นพอดีความกว้างของมือ เราจะใช้ด้านที่หยาบๆ มีตะขอ ไม่ใช่ด้านนุ่มๆ ฟูๆ ให้แปะเวลโครเทปบนเนื้อผ้าแล้วลากลง พอฝุ่นผงไปกระจุกกันอยู่ด้านล่างแล้ว ก็เอาเทปหรือ lint roller แปะออกได้เลย
8
โกนออกด้วยมีดโกนใหม่. เหมาะสำหรับกำจัดฝุ่นผงที่ฝังลึกในเนื้อผ้า ให้ใช้มีดโกนใหม่ แล้วเริ่มโกนจากด้านบนลงมา ค่อยๆ ลากลงไปตามเนื้อผ้าทีละ 2 - 3 นิ้ว (5 - 8 ซม.) จากนั้นหยุดโกนเพื่อเคาะฝุ่นผงส่วนเกินออก แล้วโกนต่อแบบบนลงล่าง อย่าลืมหยุดทุก 2 - 3 นิ้วเพื่อเคาะเศษผงออกตามเดิม^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าไม่มีเครื่องกำจัดขุยผ้าแบบใส่ถ่าน ก็ใช้มีดโกนแบบใบมีดเดียวนี่แหละถูกดี ให้ถือทำองศาแค่พอเฉือนขุยผ้าด้านบนออกไป รวมถึงกำจัดฝุ่นผงที่สะสม ต้องระวังอย่าให้บาดจนผ้าขาด
เอาฟองน้ำหรือสก็อตไบรท์ไปชุบน้ำแล้วบีบน้ำส่วนเกินออกให้พอหมาด จากนั้นใช้ด้านหยาบถูที่ผ้าเบาๆ จากบนลงล่าง โดยถูไปทีละนิด^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 3:

ใช้วิธีอื่นๆ

ดาวน์โหลดบทความ

หน้าตาจะเหมือนแปรงสำหรับหวีผมทั่วไป แต่แทนที่จะเป็นขนแปรง จะเป็นแผ่นที่มีเส้นใยนุ่มๆ ฟูๆ แทน ประมาณด้านนิ่มของเวลโครเทปนั่นแหละ ให้แปรงเสื้อผ้าไปในทิศทางเดียว โดยเริ่มจากด้านบนแล้วไล่ลงมา ถ้าถึงปลายผ้าแล้วยังมีเศษผงหลงเหลือ ให้กำจัดออกด้วยลูกกลิ้งหรือเทปกาว
dryer sheet ที่เอาไว้ใส่ในเครื่องอบผ้าจะช่วยกำจัดไฟฟ้าสถิตที่คอยดูดฝุ่นผงมาติดตามเสื้อผ้า^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
สวมถุงมือยางเหมือนที่ใช้ล้างจาน แล้วลูบมือจากบนลงล่าง ตามเนื้อผ้าไปยังชายผ้า ฝุ่นผงกับขนสัตว์จะติดมากับถุงมือ ยิ่งลูบก็ยิ่งไปกระจุกตัวกันที่เดียว ก็เอาถุงมือลูบออกหรือแปะออกด้วยเทปกาวหรือลูกกลิ้งก็ได้^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
เอาถุงเท้าหรือถุงน่องไนลอนมาสวมแทนถุงมือ ดึงให้ปลายนิ้วสุดปลายถุงน่องส่วนที่เป็นนิ้วเท้าเลย จากนั้นเอามือไปลูบเบาๆ ที่เนื้อผ้า ฝุ่นผงจะติดมากับถุงน่องเอง
ซักผ้าอีกรอบ แต่คราวนี้ไม่ต้องใส่น้ำยาซักผ้า. ถ้าเอาผ้าออกจากเครื่องแล้วเห็นฝุ่นผงติดเต็มไปหมด ก็ให้จับโยนกลับเข้าเครื่องแล้วซักอีกรอบ คราวนี้ไม่ต้องใช้น้ำยาซักผ้า พอซักรอบ 2 เสร็จ ก็ให้เอาผ้าออก แล้วสะบัดให้ฝุ่นผงที่หลงเหลือหลุดออกไป จากนั้นอบผ้าในเครื่องตามปกติ^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 3:

ป้องกันฝุ่นผงติดตามเสื้อผ้า

ดาวน์โหลดบทความ

ผ้าบางอย่าง เช่น ผ้ากำมะหยี่ (chenille) ผ้าเช็ดตัว และผ้าสักหลาดอ่อน (flannel) ก็ชอบทิ้งฝุ่นผงไว้ในเครื่องซักผ้าเยอะกว่าผ้าชนิดอื่น^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} พอเจอตัวการแล้วว่าเป็นเสื้อผ้าชิ้นไหน คราวหน้าก็จับซักแยกเลย จะได้ไม่ถ่ายเทฝุ่นผงมาติดเสื้อผ้าที่เหลือเวลาซัก^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
2
ผ้าชนิดไหนฝุ่นติดง่าย ก็ซักแยกเช่นกัน. ผ้าบางชนิด เช่น ผ้าลูกฟูก (corduroy) กับไหมกำมะหยี่ (velvet) ฝุ่นจะติดง่ายกว่าผ้าชนิดอื่น เพราะงั้นต้องซักแยก หรืออย่างน้อยก็ไม่ปนกับผ้าอื่นที่คุณรู้ว่ามักทิ้งฝุ่นผงไว้^{[8]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าซักแยกลำบาก ให้ลองกลับด้านผ้าที่ฝุ่นติดง่ายแบบในออกนอก แล้วค่อยใส่เครื่องซัก^{[9]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
3
ใส่น้ำส้มสายชูกลั่นขาว ¼ ถ้วยตวง (60 มิลลิลิตร) ในเครื่องซักผ้า. น้ำส้มสายชูช่วยขจัดฝุ่นผงที่ติดตามเสื้อผ้าได้ แถมยังป้องกันให้ฝุ่นผงติดผ้าน้อยลง
- น้ำส้มสายชูขจัดกลิ่นตกค้างในเครื่องซักผ้าได้ด้วย
พวกของอย่างทิชชู่จะยุ่ยแถมกระจายเต็มเครื่องซักผ้าอบผ้า ทีนี้ก็ฝุ่นผงติดเต็มไปหมด ต้องล้วงกระเป๋าออกมาเช็คเลยว่าไม่ลืมอะไรไว้ โดยเฉพาะทิชชู่ เศษผ้า หรือกระดาษ^{[10]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ถ้ามีเสื้อผ้าที่ฝุ่นผงติดเต็มไปหมด ให้กำจัดด้วยลูกกลิ้งก่อนโยนเข้าเครื่องซักผ้า ไม่งั้นจะกระจายไปติดตามเสื้อผ้าชิ้นอื่นได้^{[11]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
เช็ดทำความสะอาดถังซักผ้าหลังซักผ้าประเภทชอบสร้างฝุ่น. ถ้าซักผ้าประเภทไหนแล้วฝุ่นผงหลงเหลือเยอะเป็นพิเศษ ให้เช็ดถังซักผ้าด้วยผ้าขนหนู ไม่งั้นเศษผงที่เหลือจะไปติดเสื้อผ้าที่ซักคราวหน้าได้^{[12]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ซักผ้าเสร็จให้สะบัด แล้วค่อยใส่เครื่องอบผ้า. ให้สะบัดเสื้อผ้าทุกชิ้นก่อนเอาเข้าเครื่องอบผ้า อย่างน้อยก็ช่วยกำจัดฝุ่นผงที่ติดมาจากขั้นตอนการซักได้คร่าวๆ^{[13]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ถ้าอบผ้าไม่เยอะ ใช้แค่ครึ่งแผ่นก็พอ แต่ถ้าผ้าเยอะก็ใส่ไปทั้งแผ่นเลย แผ่นอบผ้าหรือ dryer sheet จะช่วยลดไฟฟ้าสถิตที่เป็นตัวการทำฝุ่นผงติดตามเสื้อผ้าแต่แรก^{[14]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
เวลาเปิดเครื่องอบผ้า จะเห็นลิ้นชักหรือช่องด้านในของประตู หรือในเครื่องอบผ้า ให้ดึงส่วนนี้ออกไปเคาะฝุ่นใส่ถังขยะ ถ้าลิ้นชักหรือช่องนี้ถอดออกจากเครื่องไม่ได้ ก็ต้องใช้อะไรมาหยิบหรือตักฝุ่นผงออกไป ไม่งั้นฝุ่นจะย้อนไปติดตามเสื้อผ้าที่อบคราวหน้า^{[15]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
10
ตากผ้าแทนอบผ้า. เครื่องอบผ้าเป็นตัวดักฝุ่นผงชั้นดี ยิ่งถ้าใช้แล้วไม่ทำความสะอาด ยิ่งถ่ายเทฝุ่นผงไปติดผ้าที่อบรอบหน้า ถ้ามีเวลาและสถานที่ จะลองตากผ้าแบบดั้งเดิมดูก็ได้ ลมจะพัดฝุ่นผงไปแน่นอน จะแขวนกับเชือกหรือราวตากผ้าก็ตามสะดวกเลย^{[16]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- แถมทั้งแดดและลมจะช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์อันเกิดจากแบคทีเรีย ผ้าเลยหอมแดด ดมแล้วสดชื่น
โฆษณา

คำเตือน

ให้ทดสอบอุปกรณ์ที่จะเอามาขัดถูเสื้อผ้าซะก่อน เช่น หินภูเขาไฟ มีดโกน หรือสก็อตไบรท์ โดยขัดแค่จุดเดียวเล็กๆ ก่อน ถ้าเห็นเนื้อผ้าเสียหาย ก็ต้องเปลี่ยนไปใช้วิธีอื่นที่ปลอดภัยกว่า เช่น แปะเทปกาว
ถ้าทำทุกวิถีทางแล้วแต่ยังเหลือฝุ่นผงติดตามเสื้อผ้า ลองเปลี่ยนจากซักเองไปใช้บริการร้านซักอบรีดจะดีกว่า
อีกวิธีก็คือใช้ถุงตาข่ายแต่แรก โดยใช้แยกเสื้อผ้าสีเข้ม กับผ้าชนิดที่ติดฝุ่นผงง่ายเป็นพิเศษ รูดซิปแล้วโยนถุงเข้าเครื่องไปรวมกับเสื้อผ้าชิ้นอื่นได้เลย ถุงตาข่ายจะดักฝุ่นผงให้คุณเอง

โฆษณา