วิธีการ กำจัดกลิ่นเหม็นอับในบ้าน

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

กลิ่นเหม็นอับสามารถทำลายบรรยากาศดีๆ ในบ้านได้ เราจึงต้องมีวิธีการกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์นี้ให้หายไป เราต้องเปิดหน้าต่างระบายอากาศเพื่อให้อากาศอันสดชื่นเข้ามาแทนที่กลิ่นเหม็นอับ กำจัดกลิ่นเหม็นอับบนเสื้อผ้าและเครื่องใช้ด้วยการใช้น้ำส้มสายชู ผงฟู หรือน้ำยาฟอกขาว โรยผงฟูบนสิ่งของที่มีกลิ่นเหม็นอับเพื่อดูดกลิ่นและดูดความชื้นที่ยังมีอยู่ เรายังสามารถใช้วานิลลา ผงกาแฟ รวมทั้งพืชและส่วนประกอบของพืชอย่างก้านอบเชย เปลือกส้ม และกานพลูมาช่วยทำให้บริเวณต่างๆ ภายในบ้านมีกลิ่นหอมมากขึ้นได้

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 5:

กำจัดกลิ่นเหม็นอับบนเสื้อผ้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ซักผ้าด้วยน้ำส้มสายชูขาว.
    เสื้อผ้า ผ้าม่าน และผ้าลินินสามารถนำมาซักกับเครื่องซักผ้าได้ ใส่น้ำส้มสายชูขาว 1 ถ้วยลงไปในน้ำและแช่ไว้สัก 30 นาที เริ่มการซักตามปกติและใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีกลิ่นหอมระหว่างที่ซักผ้า ใส่แผ่นปรับผ้านุ่มที่มีกลิ่นหอมลงในเครื่องอบผ้าด้วยเช่นกัน อาจทำวิธีนี้ซ้ำ ถ้าเห็นว่ากลิ่นเหม็นอับยังไม่หมดไป
    • กลิ่นน้ำส้มสายชูจะลดลงหลังจากผ้าแห้ง
    • อย่าใส่ผงซักฟอกหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มมากเกินไป เพราะจะทำให้เกิดคราบสบู่ไปสะสมในเสื้อผ้า เสื้อผ้าจะดูดซับน้ำน้อยลงและเกิดกลิ่นเหม็นอับขึ้น[1]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ซักผ้าด้วยผงฟู.
    เสื้อผ้า ผ้าม่าน และผ้าลินินสามารถนำมาซักด้วยผงฟูได้เพื่อกำจัดกลิ่นเหม็นอับ ใส่ผงฟู 1 ถ้วยลงในน้ำและแช่ผ้าทิ้งไว้ 30 นาที จากนั้นซักตามปกติจนเสร็จสิ้น [2]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ซักหรือแช่ผ้าขาวลงในน้ำยาฟอกขาว.
    นำผ้ามาเข้าเครื่องซักผ้าแต่อย่ามากเกินไป ใส่ผงซักฟอกและตั้งการซักเป็นการซัก "น้ำอุ่น" พอน้ำเข้าเครื่องเรียบร้อยแล้ว ใส่น้ำยาฟอกขาว 1 ถ้วย (ถ้าผ้ามีน้อย ให้ลดปริมาณน้ำยาฟอกขาวลง) ซักตามปกติจนเสร็จสิ้น
    • น้ำยาฟอกขาวสามารถกำจัดได้ทั้งคราบและกลิ่นที่เกิดจากรา แต่ให้ตรวจดูที่ป้ายผ้าก่อนว่าผ้านั้นสามารถใช้น้ำยาฟอกขาวได้ไหม เพราะน้ำยาฟอกขาวแบบคลอรีนบลีชจะทำให้ผ้าที่ไม่ใช่ผ้าขาวมีสีกะดำกะด่าง
    • น้ำยาฟอกขาวอาจทำให้ผ้ามีสีกะดำกะด่าง หรือเสียหายอย่างถาวรได้ ผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติอย่างเช่น ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ หรือเส้นใยจากสัตว์อาจได้รับความเสียหายมาก ถ้าใช้น้ำยาฟอกขาว ฉะนั้นตรวจดูป้ายผ้าว่ามีข้อความเตือนว่า "ห้ามใช้น้ำยาฟอกขาว" ไหม
    • อย่าซักผ้าด้วยน้ำยาฟอกขาวแบบคลอรีนบลีชมากเกินไป เพราะจะทำให้ผ้าอย่างเช่น ผ้าลินิน ผ้าฝ้าย และผ้าเรยอนมีเนื้อบางลงทีละนิด การใช้น้ำยาฟอกขาวเป็นบางครั้งบางคราวจะไม่ก่อให้เกิดผลเสียหายมากนัก
  4. How.com.vn ไท: Step 4 นำผ้าไปผึ่งแดดให้แห้งหลังซักเสร็จ.
    การนำผ้าออกไปตากแดดและลมสามารถทำให้กลิ่นหายไปได้เอง เราต้องให้ผ้าแห้ง "สนิท" ก่อนนำเข้ามาภายในบ้านและเก็บในตู้เสื้อผ้า ถ้ามีความชื้นหลงเหลืออยู่อาจเป็นสาเหตุทำให้ราขึ้นผ้าได้[3]
    • ระวังเรื่องสภาพอากาศและรีบเก็บผ้าเข้ามาด้านในถ้าเห็นว่าอากาศชื้นหรือฝนตก อย่าตากผ้าทิ้งไว้ข้ามคืน การตากผ้าท่ามกลางอากาศชื้นอาจก่อให้เกิดราและกลิ่นเหม็นอับบนเสื้อผ้าได้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 5:

กำจัดกลิ่นเหม็นอับของเครื่องใช้ต่างๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ทำความสะอาดเครื่องใช้ด้วยน้ำผสมกับน้ำส้มสายชูขาว....
    ทำความสะอาดเครื่องใช้ด้วยน้ำผสมกับน้ำส้มสายชูขาว. นำผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ (14.8 มิลลิลิตร) มาละลายในน้ำอุ่นประมาณหนึ่งลิตร นำน้ำยานี้มาเช็ดเครื่องใช้ทุกอย่าง ฉีดน้ำยานี้บริเวณด้านในของเครื่องใช้ อุดช่องว่างของเครื่องใช้ด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ขยำเป็นก้อนและปล่อยทิ้งไว้ 24 ชั่วโมงหรือจนกว่าน้ำยาจะแห้ง นำกระดาษหนังสือพิมพ์ออกและเช็ดเครื่องใช้ด้วยผ้าชุบน้ำ จากนั้นปล่อยให้แห้งสนิท
    • ก่อนจะทำความสะอาดตู้เย็น เอาอาหารออกจากตู้ให้หมดและละลายน้ำแข็งในช่องแช่แข็งให้เรียบร้อยก่อน
  2. How.com.vn ไท: Step 2 วางภาชนะบรรจุผงฟูไว้ในตู้เย็น.
    นำภาชนะบรรจุผงฟูมาวางไว้ในตู้เย็น กลิ่นจะหมดไปภายในสองสามวัน เปลี่ยนผงฟูเป็นประจำตามคำแนะนำข้างกล่อง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 วางจานเล็กๆ หรือจานรองถ้วยที่ใส่วานิลลาสกัดไว้ในตู้เย็น....
    วางจานเล็กๆ หรือจานรองถ้วยที่ใส่วานิลลาสกัดไว้ในตู้เย็น. ตักวานิลลาหลายช้อนลงในจานเล็กหรือจานรองถ้วยและวางไว้ในตู้เย็นตรงบริเวณที่เราจะไม่ทำหก วางทิ้งไว้ในตู้เย็น 3 สัปดาห์เพื่อกำจัดกลิ่นเหม็นอับในตู้เย็นให้หมดไป
    • อุณหภูมิในช่องแช่แข็งจะทำให้วานิลลาสกัดแข็งไปด้วย ทำให้วานิลาสกัดดับกลิ่นไม่ได้ผล
  4. How.com.vn ไท: Step 4 กำจัดกลิ่นในเตาอบด้วยน้ำยาล้างจาน ผงฟู น้ำส้มสายชู...
    กำจัดกลิ่นในเตาอบด้วยน้ำยาล้างจาน ผงฟู น้ำส้มสายชู และวานิลลา. น้ำยาทำความสะอาดเตาอบที่วางขายตามท้องตลาดอาจเป็นพิษและมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เราสามารถกำจัดกลิ่นควันหรือกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ภายในเตาอบด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่หาได้จากในครัว การนำผลิตภัณฑ์ต่างๆ มาทำน้ำยาความสะอาดเตาอบมีขั้นตอนต่างๆ ดังนี้[4]
    • นำน้ำยาล้างจาน 1/2 ถ้วย ผงฟู 1 1/2 ถ้วย น้ำส้มสายชูขาว 1/4 ถ้วย และวานิลลาสกัด 1 ช้อนชามาผสมกันในชามแก้ว
    • เติมน้ำลงไปให้พอที่จะทำให้ส่วนผสมข้นเหนียว แต่อย่าให้ส่วนผสมเหลว เคลือบหรือทาด้านในเตาอบและทิ้งไว้หนึ่งคืน (6 ถึง 8 ชั่วโมง)
    • เราต้องทำให้ส่วนผสม "เกิดฟอง" จะได้สามารถกำจัดคราบสกปรกออกจากพื้นผิวได้ ใช้ที่ขัดและน้ำทำความสะอาดเตาอบ ถ้ากลิ่นเหม็นอับยังไม่หมด ให้ทำซ้ำอีกครั้ง
    • อีกวิธีหนึ่งคือนำน้ำส้มสายชูใส่ขวดสเปรย์ลงไปครึ่งขวดและจากนั้นใส่น้ำลงไปในขวดสเปรย์นั้น นำไปฉีดภายในเตาอบและเช็ดออกด้วยฟองน้ำชุบน้ำ การใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำจะช่วยกำจัดกลิ่น แต่ไม่สามารถกำจัดคราบอาหารหรือคราบมันได้[5]
    • โรยเกลือบนคราบไหม้ในเตาอบ รอจนเตาเย็นลงและเช็ดออกด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ[6]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 กำจัดกลิ่นเหม็นอับในเครื่องซักผ้าด้วยน้ำยาฟอกขาวและน้ำส้มสายชู....
    กำจัดกลิ่นเหม็นอับในเครื่องซักผ้าด้วยน้ำยาฟอกขาวและน้ำส้มสายชู. ราสามารถเกิดขึ้นภายในเครื่องซักผ้าได้ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า) และทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับแม้แต่กับผ้าที่เพิ่งซักเสร็จใหม่ๆ[7] นำเสื้อผ้าออกจากเครื่องซักผ้าให้หมดและใส่น้ำยาฟอกขาวหรือน้ำส้มสายชูลงไป 1 ถ้วย ตั้งอุณหภูมิไปที่ "ร้อน" และเปิดเครื่องให้ทำงานตามปกติช่วงสั้นๆ ปล่อยให้น้ำในเครื่องแห้ง
    • เปิดฝาเครื่องซักผ้าเป็นบางครั้งบางคราวเมื่อไม่ได้ใช้งานเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรา
    • ทำความสะอาดด้านในและด้านนอกของเครื่องซักผ้าด้วยน้ำยาฟอกขาวเจือจาง (น้ำยาฟอกขาว 2 ช้อนชาต่อน้ำเย็น 1 แกลลอน) หรือน้ำส้มสายชูผสมน้ำ (น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำเย็น 1 แกลลอน) [8][9] เช็ดพื้นผิวด้านนอกทั้งหมดด้วยกระดาษชำระอเนกประสงค์ชุบน้ำ ปล่อยทิ้งไว้นาน 12 ชั่วโมงหรือปล่อยทิ้งไว้จนกระทั่งแห้งสนิท
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 5:

กำจัดกลิ่นเหม็นอับในพื้นที่อับชื้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ระบายอากาศในตู้เสื้อผ้าและห้องต่างๆ.
    ราชอบที่เย็น ชื้น และมืด ลดความชื้นในอากาศด้วยการเปิดพัดลม เครื่องลดความชื้น หรือหน้าต่าง ความชื้นในบ้านควรต่ำกว่า 40%[10]
    • จ้างผู้เชี่ยวชาญมากำจัดราบนกระเบื้องติดเพดาน พรม เสื่อน้ำมัน หรือฝ้าผนัง เราไม่สามารถกำจัดราบริเวณเหล่านี้ด้วยตนเองได้และถ้าปล่อยไว้ อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเราได้
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ทำความสะอาดพื้นผิวแข็งๆ ด้วยผงซักฟอก.
    ทำความสะอาดพื้นผิวแข็งๆ ที่ไม่มีรูพรุน เช่น ผนัง ภายในลิ้นชัก พื้นไม้ลามิเนต พื้นคอนกรีต หรือพื้นปูกระเบื้องด้วยผงซักฟอกและน้ำอุ่น[11]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 กลบกลิ่นเหม็นอับด้วยก้านอบเชย เปลือกส้ม และกานพลู....
    กลบกลิ่นเหม็นอับด้วยก้านอบเชย เปลือกส้ม และกานพลู. เคี่ยวก้านอบเชย เปลือกส้ม และกานพลูในน้ำที่ตั้งบนเตา เอาส่วนผสมออกเมื่อน้ำเริ่มเดือดและนำไปวางในห้องที่มีกลิ่นเหม็นอับและปล่อยให้เย็นลง[12]
    • อาจนำส่วนผสมนี้ไว้ใส่ไว้ในถุงน่องและแขวนไว้ตามจุดต่างๆ ที่มีกลิ่นเหม็นอับ
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ใช้ทรายแมวดูดความชื้น.
    ใส่ทรายแมวลงในถาดหรือกล่องแล้ววางไว้ตรงบริเวณที่เราใช้เก็บเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใช้งาน เช่น ตู้เสื้อผ้า หรือห้องเก็บของเพื่อลดความชื้นและกำจัดกลิ่น[13]
    • ฉีดสเปรย์ดับกลิ่นเพื่อช่วยระงับกลิ่นชั่วคราว
  5. How.com.vn ไท: Step 5 แขวนถุงตาข่ายใส่หินภูเขาไฟในพื้นที่อับชื้น....
    แขวนถุงตาข่ายใส่หินภูเขาไฟในพื้นที่อับชื้น. หินภูเขาไฟสามารถหาซื้อได้ทางอินเตอร์เน็ต เราสามารถนำมาใช้ดับกลิ่นห้องต่างๆ ตู้เสื้อผ้า เพิง และแม้แต่รองเท้าได้[14]
    • อ่านคำแนะนำที่อยู่บนถุง จะได้รู้ว่าจะต้องใช้ถุงขนาดไหนและจำนวนเท่าไรต่อพื้นที่หนึ่งตารางฟุต
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ทำความสะอาดหน้าต่างและประตูด้วยน้ำผสมกับน้ำส้มสายชูในปริมาณเท่ากัน....
    ทำความสะอาดหน้าต่างและประตูด้วยน้ำผสมกับน้ำส้มสายชูในปริมาณเท่ากัน. หลังจากนั้นฉีดน้ำมันมะพร้าวที่ขอบหน้าต่างส่วนล่างหรือรอบๆ ขอบหน้าต่างและประตู จะช่วยป้องกันราและกลิ่นเหม็นอับได้หลายเดือน
    • นำน้ำยาฟอกขาว 3/4 ถ้วยผสมกับน้ำอุ่นเพื่อฆ่าเชื้อโรคและรา สวมถุงมือยางและใช้ฟองน้ำเช็ดพื้นผิวบริเวณนั้น ปล่อยทิ้งไว้ 5 นาทีก่อนล้างด้วยน้ำ ทิ้งไว้ให้แห้ง[15][16]
    • หมั่นตรวจหน้าต่าง ประตู และผนังว่ามีจุดราหรือเกิดกลิ่นเหม็นอับอีกหรือไม่ ฆ่าเชื้อโรค ถ้าเห็นว่าจำเป็น
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 5:

กำจัดกลิ่นเหม็นอับที่เฟอร์นิเจอร์และพรม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ฆ่าราด้วยการใช้คลอรีนไดออกไซด์.
    สารนี้ใช้ในเรือเพื่อลดกลิ่นเหม็นอับและใช้ในห้องสมุดเพื่อลดการแพร่กระจายของรา เราสามารถหาซื้อคลอรีนไดออกไซด์แบบที่ใช้ในเรือและตู้เสื้อผ้าได้ นำคลอรีนไดออกไซด์มาใช้กับบริเวณที่มีราแล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง[17]
    • เราสามารถหาซื้อคลอรีนไดออกไซด์ได้ทางอินเตอร์เน็ต
  2. How.com.vn ไท: Step 2 กำจัดคราบราบนพรมด้วยไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์.
    นำไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ 3 ช้อนชามาผสมกับน้ำ 5 ช้อนชา พอลงน้ำยาบริเวณที่มีเชื้อราแล้ว ใช้แปรงขัดพรมบริเวณนั้น[18]
    • ทดสอบบริเวณที่มองไม่เห็นก่อนเพราะไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์สามารถทำให้สีพรมซีดหรือจางลงได้
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ทำความสะอาดพรมด้วยผงฟู.
    โรยผงฟูบนพื้นผิวของพรม จากนั้นใช้ม็อบฟองน้ำชุบน้ำทำความสะอาดเส้นใยพรม ปล่อยให้พรมแห้งสนิทและจากนั้นจึงดูดฝุ่นพรม
    • อาจต้องดูดฝุ่นพรมสองครั้งและดูดฝุ่นในทิศทางตรงข้าม[19]
    • อาจซื้อแชมพูซักพรมมาทำความสะอาดพรมโดยเฉพาะก็ได้ โดยเราสามารถหาซื้อแชมพูทำความสะอาดพรมได้ที่ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและทางอินเตอร์เน็ต
    • ซักพรมผืนเล็กๆ หรือพรมเช็ดเท้าด้วยเครื่องซักผ้า ดูป้ายสินค้าของผู้ผลิตสินค้าก่อนเพื่อจะได้ทราบคำแนะนำในการทำความสะอาดพรม
  4. How.com.vn ไท: Step 4 กำจัดกลิ่นในตู้และหีบต่างๆ ด้วยผงฟู.
    วางกล่องบรรจุผงฟูไว้ในตู้หรือหีบเพื่อกำจัดกลิ่นและดูดความชื้น ทิ้งไว้อย่างน้อย 2-3 วันก่อนเอาออก[20]
    • อาจเช็ดทำความสะอาดตู้ หีบ หรือลิ้นชักด้วยผงฟูผสมน้ำในอัตราส่วนเท่ากัน จากนั้นใส่แผ่นรองเพื่อรักษาความสะอาดบริเวณเหล่านั้น
    • การวางกระป๋องหรือภาชนะบรรจุผงกาแฟสดจะช่วยกำจัดกลิ่นในบริเวณเล็กๆ ได้ วางทิ้งไว้ 2-3 วันก่อนที่จะเอาออกหรือเอาผงกาแฟใหม่มาวางแทนที่
    • การกำจัดกลิ่นอีกวิธีหนึ่งคือเอาของออกให้หมดก่อนและโรยผงกาแฟหรือผงฟูบนพื้นตู้ หีบ หรือลิ้นชัก ทิ้งไว้ 2-3 วันและจากนั้นดูดฝุ่นหรือเช็ดออกด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ เปิดตู้ หีบ หรือลิ้นชักทิ้งไว้และปล่อยให้แห้ง
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 5:

กำจัดกลิ่นเหม็นอับในของใช้อื่นๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ดับกลิ่นรองเท้าด้วยผงฟู.
    ใส่ผงฟูหลายช้อนในพื้นรองเท้าและใส่ไว้ในถุงซิปล็อค วางถุงไว้ในช่องแช่แข็งหนึ่งคืน จึงเอาออกมาและนำผงฟูไปทิ้งในถังขยะ[21]
    • โรยผงดับกลิ่นรองเท้าแทนก็ได้
    • นำก้อนกระดาษหนังสือพิมพ์มาใส่ในรองเท้าเปียก (โดยเฉพาะอย่างยิ่งรองเท้ากีฬา) นำกระดาษหนังสือพิมพ์ก้อนใหม่มาแทนที่เมื่อกระดาษหนังสือพิมพ์ก้อนเก่าเริ่มเปียก จะช่วยให้รองเท้าแห้งเร็วขึ้นและป้องกันไม่ให้รองเท้าเปียกขึ้นราหรือมีกลิ่นเหม็น
  2. How.com.vn ไท: Step 2 นำกระเป๋าเดินทางหรือเป้ไปผึ่งแดด.
    นำกระเป๋าเดินทางหรือเป้ออกไปผึ่งแดดข้างนอกเป็นเวลาสองสามวัน ความร้อนและแสงแดดจะช่วยฆ่าราและแบคทีเรีย
    • เราสามารถเช็ดสิ่งของต่างๆ ด้วยผ้าเช็ดทำความสะอาดแบบฆ่าเชื้อโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งของที่ทำจากพลาสติกหรือวัสดุแข็งๆ
    • วางแผ่นดรายเออร์ชีทไว้ในกระเป๋าเดินทางหรือเป้ จะใส่ทรายแมวพร้อมผงฟูลงในห่อที่ทำจากผ้าแล้วนำมาวางไว้ในกระเป็าเดินทางหริอเป้ก็ได้
    • หมั่นรักษาสภาพกระเป๋าเดินทางและเป้ให้ดูเหมือนใหม่ด้วยการนำก้อนสบู่ที่ห่อไว้แล้วมาวางไว้ในนั้น วางก้อนสบู่ไว้ในตัวกระเป๋ารวมทั้งในกระเป๋าเล็กๆ ของกระเปานั้นด้วย[22]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 นำเต็นท์ไปตากแดด.
    ตั้งเต็นท์ในสวนท่ามกลางแดด วิธีนี้อาจไม่สามารถกำจัดคราบราได้แต่สามารถกำจัดกลิ่นด้วยการขัดถู (อ่านคำแนะนำจากผู้ผลิตเพื่อจะได้ทำความสะอาดอย่างเหมาะสม) และแสงแดด
    • หลังจากการตั้งแคมป์ เต็นท์ต้องแห้งสนิทจริงๆ ถึงจะสามารถม้วนเก็บได้
  4. How.com.vn ไท: Step 4 กำจัดกลิ่นในรถด้วยผงฟู.
    โรยผงฟูหรือฉีดน้ำยาทำความสะอาดพรมที่เบาะและพื้นรถ จากนั้นใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออก อาจแขวนแผ่นหอมปรับอากาศไว้ที่กระจกมองหลังก็ได้[23]
    • วางภาชนะบรรจุผงกาแฟหรือถาดใส่ทรายแมวไว้ในกระโปรงรถหนึ่งคืนเพื่อดูดกลิ่นเหม็นอับ
    • ฉีดน้ำยาฟอกขาวเจือจางที่แผ่นยางปูพื้นรถยนต์ (น้ำยาฟอกขาว 1/2 ถ้วยต่อน้ำร้อน 1 แกลลอน) และจากนั้นฉีดน้ำเพื่อล้างน้ำยาออก ให้ทำความสะอาดแผ่นยางปูพื้นรถยนต์ในวันที่มีแดด เราจะได้นำแผ่นยางนั้นไปผึ่งแดดให้แห้ง[24][25]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ดับกลิ่นเหม็นอับของหนังสือด้วยหินภูเขาไฟ.
    ทำให้กลิ่นเหม็นอับหรือกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์หายไปด้วยหินภูเขาไฟ (หาซื้อถุงตาข่ายใส่หินภูเขาไฟได้ตามอินเตอร์เน็ต)[26][27]
    • วางถุงตาข่ายบรรจุหินภูเขาไฟไว้ในถังพลาสติกสะอาดๆ ที่มีฝาปิด
    • ตั้งลังนมไว้บนถังที่ใส่ถุงตาข่ายบรรจุหินภูเขาไฟ วางหนังสือบนลังนมในแนวตั้ง
    • คลุมถังและปล่อยทิ้งไว้หลายวันก่อนที่จะเอาหนังสือออก
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่านำน้ำยาฟอกขาวหรือแอมโมเนียมาทำความสะอาดเครื่องใช้เพราะอาจสร้างความเสียหายให้แก่เครื่องใช้และเราอาจได้รับอันตรายจากการสูดดมด้วย
  • ถ้าไม่สะดวกใช้เครื่องซักผ้า แช่ผ้าในอ่างล้างจานหรืออ่างธรรมดาก็ได้ แช่ผ้าในน้ำอุ่นสัก 30 นาทีก็ได้ผลเหมือนกัน
  • ต้องซักผ้าให้สะอาดและผึ่งแดดให้แห้งสนิทก่อนนำมาเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าหรือลิ้นชัก
  • ผ้าขนหนูต้องแห้งสนิทก่อนที่จะโยนใส่ตะกร้าปนกับผ้าอื่นๆ
  • น้ำหอมปรับอากาศแค่กลบกลิ่นเหม็นอับเท่านั้น ไม่ได้กำจัดกลิ่นเหม็นอับออกไป แต่ก็มีผลิตภัณฑ์บางอย่างที่หลอกตัวรับกลิ่นของเรา (ประสาทรับกลิ่น) ให้คิดว่ากลิ่นหายไปแล้ว ตัวเลือกเหล่านี้มีประโยชน์เพราะจะช่วยลดกลิ่นเหม็นอับจนกว่าเราจะกำจัดกลิ่นเหม็นอับได้จริงๆ
  • ถ้าพรมหรือเบาะนั่งมีราขึ้นหนักมาก ให้นำไปทิ้ง
  • กลิ่นเหม็นอับจะยังคงอยู่หรือกลับมาอีก ถ้าเราไม่หาสาเหตุให้พบและจัดการให้เรียบร้อยอย่างเช่น ความชื้นหรือแบคทีเรีย[28]
  • อย่าเก็บของต่างๆ ในที่ชื้น มืด และเย็น เพราะสถานที่แบบนี้เป็นแหล่งเหมาะสมต่อการเติบโตของเชื้อรา[29]
  • ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าหรือตู้เก็บเสื้อผ้า ถ้าเห็นว่ากลิ่นเหม็นอับยังคงอยู่แต่ไม่ได้มาจากเสื้อผ้าของเรา แสดงว่าเครื่องซักผ้าหรือตู้เก็บเสื้อผ้าอาจเป็นแหล่งที่อยู่ของรา[30]
  • ป้องกันการเกิดราด้วยการแก้ปัญหารอยรั่วต่างๆ ที่ผนัง หลังคาบ้าน หรือท่อประปา[31]
โฆษณา

คำเตือน

  • คลอรีนไดออกไซด์เป็นสารก่อความระคายเคือง ถ้าจะใช้คลอรีนไดออกไซด์ ต้องให้ห้องมีอากาศถ่ายเทดี ถ้าใช้ดับกลิ่นในตู้เสื้อผ้า ต้องปิดตู้เสื้อผ้าให้สนิท
  • โดยส่วนใหญ่ราที่พบในห้องใต้ดิน ห้องใต้หลังคา ช่องใต้พื้นอาคาร และช่องระบายอากาศอาจเป็นพิษได้ ถ้าพบ ให้ใส่หน้ากากป้องกัน พยายามอย่าหายใจเอาสปอร์ราเข้าไป สวมถุงมือ และล้างมือให้สะอาดหลังจากตรวจสอบราแล้ว
  • อาจจ้างบริษัทรับกำจัดเชื้อราโดยเฉพาะเลยก็ได้ ลองหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตดู ถ้าต้องทำสัญญาทำความสะอาด ศึกษาสัญญาให้ดีก่อนเซ็น ในสัญญานั้นควรมีข้อกำหนดให้บริษัทมาตรวจสอบและกำจัดราซ้ำ อย่าพยายามกำจัดราเอง
  • เวลาผสมสารเคมีโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำยาฟอกขาวอาจได้รับอันตรายและสารนั้นอาจระเหยง่าย เมื่อจะผสมสารเคมีทำน้ำยาทำความสะอาดใช้ภายในบ้าน ให้ใช้ชามแก้วที่สะอาดหรือถ้วยตวงในการผสม อย่าใช้ขวดสเปรย์ที่เคยใส่น้ำยาอื่นๆ หาซื้อขวดสเปรย์ใหม่จากร้านจำหน่ายบรรจุภัณฑ์และทางอินเตอร์เน็ต
  • เวลาใช้น้ำยาทำความสะอาดซึ่งจำหน่ายตามท้องตลาดหรือน้ำยาฟอกขาว สถานที่ซึ่งเราจะใช้สารเหล่านี้ต้องมีอากาศถ่ายเทดี[32]
  • บริเวณที่จะโรยผงฟู (พื้นผิวแข็ง พรม เบาะ) ต้องแห้งสนิทจริงๆ ถ้ามีความชื้นหลงเหลืออยู่จะทำให้ผงฟูแข็ง ดูดกลิ่นได้ไม่ดี และทำความสะอาดยาก[33]
โฆษณา
  1. http://www.fema.gov/pdf/rebuild/recover/fema_mold_brochure_english.pdf
  2. http://www.epa.gov/mold/moldguide.html
  3. http://www2.ca.uky.edu/hes/fcs/FACTSHTS/HF-LRA.125.PDF
  4. http://lenoir.ces.ncsu.edu/2013/05/removing-odor-from-clothing/
  5. http://www.leevalley.com/us/garden/page.aspx?p=10175&cat=2,42194,40727,10175
  6. http://oregonstate.edu/dept/larc/sites/default/files/pdf/chlorine-fact-sheet.pdf
  7. https://www.clorox.com/dr-laundry/getting-rid-of-moldmildew-on-walls/
  8. http://www.lenntech.com/processes/disinfection/chemical/disinfectants-chlorine-dioxide.htm
  9. http://www.carpet-cleaning-tips.com/mold-mildew-smell-removal-tips-on-carpets/
  10. http://www.ag.ndsu.edu/flood/media-resources/news-releases/after-the-flood/flood-damaged-carpets-rugs-may-be-saved
  11. http://www2.ca.uky.edu/hes/fcs/FACTSHTS/HF-LRA.125.PDF
  12. http://www.huffingtonpost.com/2012/11/27/how-to-deodorize-smelly-shoes_n_2200594.html
  13. http://www2.ca.uky.edu/hes/fcs/FACTSHTS/HF-LRA.125.PDF
  14. http://www2.ca.uky.edu/hes/fcs/FACTSHTS/HF-LRA.125.PDF
  15. http://www.consumerreports.org/cro/magazine/2012/09/how-to-rid-your-car-of-odors/index.htm
  16. https://www.clorox.com/dr-laundry/making-sure-you-dilute-bleach/
  17. https://parkslibrarypreservation.wordpress.com/2011/06/30/stinky-books/
  18. https://www.nedcc.org/free-resources/ask-nedcc/faqs
  19. http://www2.ca.uky.edu/hes/fcs/FACTSHTS/HF-LRA.125.PDF
  20. http://www.sewgreen.org/art/Mildew%20and%20Fabric.pdf
  21. http://lenoir.ces.ncsu.edu/2013/05/removing-odor-from-clothing/
  22. http://www.epa.gov/mold/moldguide.html
  23. http://www.fema.gov/pdf/rebuild/recover/fema_mold_brochure_english.pdf
  24. http://www.consumerreports.org/cro/magazine/2012/09/how-to-rid-your-car-of-odors/index.htm
  25. Videos provided by Clean My Space

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Melanie Garcia
ร่วมเขียน โดย:
ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดและหุ้นส่วนของ Oranges & Lemons
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Melanie Garcia. เมลานี การ์เซียเป็นหุ้นส่วนของ Oranges & Lemons บริษัทรับทำความสะอาดขนาดเล็กในใจกลางเมืองลอสแองเจลิสที่เปิดมากว่า 40 ปี Oranges & Lemons ทำงานร่วมกันกับ National Domestic Workers Alliance และ Hand in Hand: Domestic Employers Network บทความนี้ถูกเข้าชม 4,663 ครั้ง
หมวดหมู่: รองเท้า
มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,663 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา